อ่างเก็บน้ำชลประทานห้วยป่าแดง

อ่างเก็บน้ำชลประทานห้วยป่าแดง




อ่างเก็บน้ำชลประทานห้วยป่าแดง อยู่ห่างจากตัวเมืองไปทางทิศตะวันตก ตามทางหลวงหมายเลข 2006 ประมาณ 8 กิโลเมตร เป็นแหล่งพักผ่อนริมน้ำที่มีความสวยงามอีกแห่งหนึ่ง เกิดจากการสร้างเขื่อนกั้นห้วยป่าแดงในเขตตำบลป่าเล่า อ่างเก็บน้ำนี้แวดล้อมด้วยทัศนียภาพของขุนเขาและสายน้ำที่งดงามโดยเฉพาะใน ยามเช้าตรู่และยามเย็น ช่วงที่พระอาทิตย์ขึ้น-ลง ประชาชนนิยมมาพักผ่อนหย่อนใจ นั่งรับประทานอาหาร สังสรรค์กับเพื่อนฝูง ในบริเวณมีร้านขายอาหารบริการ อาหารที่ขึ้นชื่อคืออาหารจำพวกปลาน้ำจืด เช่น ปลาเผา ปลาทอด 



สวนรุกขชาติหนองนารี


สวนรุกขชาติหนองนารี



สวนรุกขชาติหนองนารี ตั้งอยู่ริมถนนนารีพัฒนา หมู่ที่5 ตำบลสะเดียง ข้างสนามกีฬาเทศบาลจังหวัดเพชรบูรณ์ ห่างจากตัวเมืองประมาณ 2กิโลเมตร บริเวณสวนเป็นบึงบัวขนาดใหญ่เหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจ สามารถขับรถเที่ยวรอบบึง บรรยากาศร่มรื่น มีร้านอาหารบริการ

ดงรอยเท้าไดโนเสาร์


ดงรอยเท้าไดโนเสาร์

Image result for ดงรอยเท้าไดโนเสาร์ เพชรบูรณ์Image result for ดงรอยเท้าไดโนเสาร์ เพชรบูรณ์


อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว พบรอยเท้าไดโนเสาร์บนหน้าผาหินทราย บริเวณเชิงเขาในเขตป่าสงวนแห่งชาติเขตรอยต่อกับป่าอุทยานแห่งชาติน้ำหนาว หมู่ที่ 5 บ้านนาสอพอง ต.น้ำหนาว พบรอยเท้าประมาณ 300 รอย มึความลึกประมาณ 1-3 เซนติเมตร มีระยะระหว่างก้าวเดิน 70 เซนติเมตร และระยะห่างระหว่างแถวประมาณ 80 เซนติเมตร แสดงให้เห็นว่ามีไดโนเสาร์ไม่น้อยกว่า 2 ตัว วัดขนาดรอยเท้ายาวประมาณ 12 นิ้ว กว้าง 6 นิ้ว เป็นรอบที่มี 3 นิ้ว ในขณะที่ส่วนปลายมีร่องรอยของเล็บที่แหลมคม ซึ่งเป็นลักษณะของไดโนเสาร์กินเนื้อ เดินด้วยสองขาหลังเป็นหลัก 

          การเดินทางใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 2216 ห้วยสนามทราย-น้ำหนาว-กกกะทอน ถึงระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 19-20 จะมีทางแยกข้างหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ พช.5 (นาพอสอง) เป็นถนนลูกรังซึ่งเป็นเส้นทางเข้าน้ำตกตาดพรานบา เข้าไปราว 3 กิโลเมตร จะมีถนนแยกด้านซ้ายระยะทางราว 2 กิโลเมตร จากนั้นต้องเดินเท้าลัดเลาะไปตามสันไหล่เขาเข้าไปอีกราว 1 กิโลเมตรจึงจะถึงแหล่งรอยเท้าไดโนเสาร์ รถยนตร์ควรเป็นชนิดขับเคลื่อนสี่ล้อ และหลีกเลี่ยงเดินทางเข้าไปหากมีฝนตก เพราะเส้นทางขณะนี้อยู่ระหว่างการสำรวจและบุกเบิก อาจเกิดอันตรายได้


ทุ่งทานตะวันที่บึงสามพัน


ทุ่งทานตะวันที่บึงสามพัน


ทุ่งทานตะวันที่บึงสามพัน มีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ที่บ้านเขาหลวง บ้านป่ายาง ตำบลสระแก้ว มีการปลูกทานตะวันบนภูเขาหลวง ครอบคลุมพื้นที่กว่าหมื่นไร่ เมื่อดอกทานตะวันบานในตอนเช้า ภูเขาบริเวณนี้จะกลายเป็นทุ่งทานตะวันมีสีเหลืองอร่ามสวยงาม ในช่วงเดือนธันวาคมทางอำเภอบึงสามพันได้จัดงาน "ตะวันบานบนภูที่บึงสามพัน" ภายในงานมีการจัดประกวดดอกทานตะวันที่ใหญ่ที่สุด การประกวดธิดาตะวัน การแปรรูปเมล็ดทานตะวัน และการจำหน่าย ผลผลิตทางการเกษตร 


          การเดินทาง จากจังหวัดเพชรบูรณ์ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 21ผ่านอำเภอหนองไผ่ ไปจนถึงสี่แยกราหุลให้เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 225ไปทางจังหวัดชัยภูมิอีก 18 กิโลเมตร ถึงสี่แยกซับบอนให้เลี้ยวซ้ายไปอีก 14 กิโลเมตร ถึงบริเวณบ้านป่ายางซึ่งทำไร่ทานตะวัน    

ภูเขาหินปะการัง


ภูเขาหินปะการัง



ภูเขาหินปะการัง หรือชาวบ้านเรียกกันว่า เขาหน่อ ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่หมู่ 8 บ้านเขาเพิ่มพัฒนา ตำบลซับพุทรา อำเภอชนแดน อยู่ในเทือกเขาชนแดน เป็นภูเขาหินสูงจากระดับน้ำทะเลราว 1,200 เมตร มี ความลาดชันราว 45 องศาฯ ลักษณะแปลกตา แตกต่างจากภูเขาที่อยู่ข้างเคียง เต็มไปด้วยหินแหลมคมสีเทาโผล่ขึ้นมาทั่วบริเวณ มองดูคล้ายปะการัง หินบางลูกเมื่อใช้วัตถุเป็นไม้ หรือเหล็กเคาะจะมีเสียงดังก้องกังวานคล้ายเสียงระฆังพบอยู่โดยรอบครอบคลุมภูเขาทั้งลูก มีต้นไม้ขึ้นสลับหลายชนิด โดยเฉพาะต้นจันทน์ผาที่เป็นไม้มงคลหายาก ขึ้นอยู่ท่ามกลางป่าเบญจพรรณ บนยอดเขาสามารถชมทิวทัศน์ได้ ติดต่อ องค์การบริหารส่วนตำบลซับพุทรา โทร. 0 5681 1003

          การเดินทาง จากกรุงเทพฯ สามารถใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 21 ไปจนถึงแยกนาเฉลียง แล้วเลี้ยวซ้ายไปตำบลซับพุทธา ประมาณ 16 กิโลเมตร จนถึงสามแยกแล้วเลี้ยวขวาไปทางอำเภอชนแดน ประมาณ 5 กิโลเมตร มีทางแยกซ้ายไปเขาหินปะการัง ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร    

เจดีย์พระบรมสารีริกธาตุเขาค้อ


เจดีย์พระบรมสารีริกธาตุเขาค้อ




ตั้งอยู่บนเขาค้อ ติดกับหอสมุดนานาชาติเขาค้อ บ้านกองเนียม หมู่ที่ 4 ตำบลเขาค้อ ที่ยอดเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่อัญเชิญมาจากประเทศศรีลังกา เป็นเจดีย์ที่มีสถาปัตยกรรมผสมผสานทั้งแบบสุโขทัย อยุธยา และรัตนโกสินทร์ เจดีย์แห่งนี้ชาวเพชรบูรณ์สร้างขึ้นเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวโรกาสทรงครองราชย์ 50 ปี และเป็นที่สักการะบูชาของพุทธศาสนิกชน ในวันสำคัญทางศาสนาจะมีประชาชนและนักท่องเที่ยวร่วมกันประกอบพิธีทางศาสนา เช่น พิธีเวียนเทียน

เนินมหัศจรรย์


เนินมหัศจรรย์



นินมหัศจรรย์อยู่ที่บริเวณกิโลเมตรที่ 17.5 ถนนสายนางั่ว-สะเดาพงษ์ ทางหมายเลข 2258 เมื่อขับรถมาถึงตรงนี้ และดับเครื่องรถจะถอยหลังขึ้นเนินได้เอง ปรากฎการณ์ดังกล่าวเกิดจากภาพลวงตา เพราะในความเป็นจริงเมื่อวัดระดับความสูงของพื้นที่สองจุดแล้ว ความสูงของเนินจะมีระดับต่ำกว่าช่วงที่เป็นทางขึ้นเนิน 

อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง (หนองแม่นา)


อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง (หนองแม่นา)

 


        ตั้งอยู่ที่ตำบลหนองแม่นา อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ และอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ด้านจังหวัดพิษณุโลกประมาณ 6 กิโลเมตร จุดท่องเที่ยวหลักของอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวงด้านจังหวัดเพชรบูรณ์ คือ ป่าสนธรรมชาติ และทุ่งหญ้าสะวันนา ซึ่งมีทิวทัศน์และพรรณไม้ดอกที่งดงามโดยเฉพาะช่วงปลายฤดูฝนถึงฤดูหนาว เหมาะแก่กิจกรรมเดินป่า กางเต็นท์พักแรม และปั่นจักรยานเสือภูเขา

          สถานที่น่าสนใจในเขตอุทยานฯ ได้แก่ ...
 
      ทุ่งแสลงหลวง เป็นทุ่งหญ้าแบบสะวันนา และทุ่งหญ้าสลับกับป่าสนสองใบ ด้านหน้าที่ทำการหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ มองเห็นเป็นพื้นที่โล่งกว้างใหญ่ เนื้อที่ประมาณ  ตารางกิโลเมตร ตามเส้นทางจะตัดผ่านป่าเบญจพรรณจะพบสัตว์ป่าออกมาหากินตามข้างทาง และมีพันธุ์ไม้ดอกมากมาย 

         ทุ่งนางพญา อยู่ทางทิศใต้ของที่ทำการหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ หนองแม่นา ประมาณ 4 กิโลเมตร เป็นทุ่งหญ้าที่แวดล้อมด้วยป่าสนสองใบสลับกับป่าดิบแล้งและป่าเต็งรัง ตามกิ่งสนจะพบกล้วยไม้ป่าที่สวยงาม เช่น เอื้องชะนีและเอื้องคำปากไก่ ซึ่งออกดอกในฤดูร้อน บริเวณป่าสนมีพื้นที่สำหรับกางเต็นท์พักแรม ในช่วงปลายฝนต้นหนาว จะมีสายหมอกลอยอ้อยอิ่งปกคลุมไปทั่วบริเวณ

          แก่งวังน้ำเย็น ห่างจากที่หน่วยพิทักษ์อุทยานฯ หนองแม่นาประมาณ 7 กิโลเมตร เส้นทางเดียวกับทุ่งโนนสน และแยกเข้าไปอีก 500 เมตร ระหว่างเส้นทาง เดินสภาพป่าจะค่อย ๆ เปลี่ยนไปจากทุ่งหญ้าสู่ป่าเต็งรังสลับด้วยป่าสนและป่าเบญจพรรณ แก่งวังน้ำเย็นเป็นแก่งหินขนาดใหญ่ยาวหลายร้อยเมตร ในระหว่างแก่งแต่ละแก่งเป็นวังน้ำลึกขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นสถานที่ค้นพบแมงกะพรุนน้ำจืด และมีผีเสื้อให้ชม เช่น ผีเสื้อถุงทองป่าสูง ผีเสื้อหนอนคืบสไบแดง นอกจากนี้ บริเวณป่าริมลำธารมีโอกาสพบนกมากมายหลายชนิด

          ทุ่งโนนสน เป็นทุ่งหญ้าแบบสะวันนาสลับกับป่าสนเขา ตั้งอยู่ใจกลางอุทยานฯ บนยอดเขาโคกสน ในช่วงปลายฝนต้นหนาวจะมีดอกไม้หลายชนิดผลัดใบ เช่น ดอกดุสิตา เอื้องม้าวิ่ง กระดุมเงิน ยี่โถปีนัง หม้อข้าวหม้อแกงลิง ทุ่งโนนสนห่างจากที่ทำการหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ หนองแม่นาประมาณ 32 กิโลเมตร สามารถเดินทางโดยรถท้องถิ่นจากหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ ประมาณ 7 กิโลเมตร แล้วเดินเท้าเข้าไปอีก 5 กิโลเมตร เหมาะแก่การเดินป่ากางเต็นท์พักแรม ใช้เวลาท่องเที่ยวรวม 3 วัน 2 คืน 



พระตำหนักเขาค้อ


พระตำหนักเขาค้อ


 
ตั้งอยู่บนเขาย่า สร้างขึ้นเพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายแด่องค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวโรกาสที่เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรงานโครงการในพระราชดำริและทรงตรวจ เยี่ยมราษฎรอำเภอเขาค้อและอำเภอใกล้เคียง เป็นอาคารคอนกรีตครึ่งวงกลมมีทั้งหมด 15 ห้อง รูปทรงแปลกตาไปจากพระตำหนักอื่น สามารถขออนุญาตเจ้าหน้าที่เข้าชมบริเวณโดยรอบพระตำหนักได้ บริเวณใกล้กันมีบ้านพักทหารม้าซึ่งเปิดให้นักท่องเที่ยวพักค้างแรมได้ มีร้านค้าสวัสดิการตั้งอยู่ นอกจากนี้ยังมีเส้นทางเดินขึ้นยอดเขาย่าซึ่งสามารถมองเห็นทิวทัศน์เขา ค้อโดยรอบได้สวยงาม  

          การเดินทาง จากสี่แยกสะเดาพงษ์ ใช้เส้นทางหมายเลข 2258 ทางไปหนองแม่นา ตรงไปประมาณ 1 กิโลเมตร จะพบสามแยกให้เลี้ยวซ้าย ไปประมาณ 1 กิโลเมตร เส้นทางชันมาก ควรขับรถอย่างระมัดระวัง


ภูแก้ว แอดเวนเจอร์ปาร์ค


ภูแก้ว แอดเวนเจอร์ปาร์ค

 



ภูแก้ว แอดเวนเจอร์ปาร์ค ศูนย์ กิจกรรมผจญภัยกลางแจ้ง แห่งเดียวบนเขาค้อ อาจคุ้นหน้าคุ้นตากับหลายกิจกรรมที่เคยนำไปแนะนำให้เล่นอย่างสนุกสนานใน รายการชิงร้อย ชิงล้าน และอีกหลายรายการมาแล้ว ที่นี่ได้รวบรวมเอากิจกรรมสนุกๆ ท้าทายความกล้า ไว้รอให้คุณมาสัมผัสกับประสบการณ์ที่แปลกใหม่เร้าใจ ไม่ว่าจะเป็น รถเลื่อนภูเขาความเร็วสูง(ดัดแปลงจากรถล้อเลื่อนชาวม้งที่สนุกสนาน) ที่มีถนนที่ยาวที่สุดในประเทศ , ฐานเชือกผจญภัย , รอกข้ามน้ำที่มีความยาวถึง 120 เมตร , เรือคายัค และการล่องแก่งเทียมซึ่งมีความปลอดภัยสูง , การปีนหน้าผาจำลอง หรือการโรยตัวจากหน้าผา 

          ตามด้วยกิจกรรมใหม่ล่าสุดที่เรียกเสียงกรี๊ดสนั่นอย่าง ไจแอนสวิง ชิงช้ายักษ์ที่จะแกว่งไกวคุณท้าทายแรงดึงดูดของโลก ซอฟลงมาหน่อยและใหม่สุดๆ ก็คือ กิจกรรมยิงธนูในสนาม และ แทรมโพลีน ห่วงยางขนาดใหญ่ ที่ให้คุณ หรือ คุณหนูๆ ไปกระโดดโลดเต้นดึ๋งดั๋งๆ กันกลางสระน้ำได้อย่างอิสระเสรี  รับรองว่าจะสนุกสนานตื่นเต้นกับกิจกรรมของภูแก้ว แอดเวนเจอร์ได้ทั้งวัน







ไร่ บี.เอ็น.


ไร่ บี.เอ็น.


       ไร่ บี.เอ็น. เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่ได้รับความนิยมมานานไม่มีเสื่อมคลาย จากผู้ที่มาเที่ยวเขาค้อ จุดเด่นอยู่ที่ความสามารถในการทำการเกษตรเชิงวิชาการแผนใหม่ มาปรับปรุงพัฒนาใช้กับพืชผลในไร่ จนกลายเป็นแหล่งสำคัญในการผลิต และการจำหน่ายผลผลิตทางการเกษตรสำหรับไม้เมืองหนาวที่สำคัญ ที่นี่มีพืชผัก ผลไม้ที่หมุนเวียนผลัดเปลี่ยนกันตามฤดูกาลมากมาย จากพื้นที่การเกษตรนับพันไร่ จึงไม่ควรพลาดจะแวะชม และเลือกซื้อพืชผลเหล่านี้ เป็นของฝากติดมือ ที่ระลึกจากเขาค้อ
ผลไม้เมืองหนาวที่หาได้จากไร่บี.เอ็น. มีมากมาย ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนตามฤดูกาล เช่น สตรอเบอร์รี่ ลิ้นจี่ น้อยหน่า อโวคาโด้ ลูกพลับ ผักต่างๆ เช่น แครอท บีทรูท แตงกวาญี่ปุ่น ฟักแม้ว ผักกาดแก้ว บรอคเคอรี่ และดอกไม้สวยๆ สำหรับเมืองหนาว เช่น คาร์เนชั่น แกลดิโอลัส แอสเตอร์ ซึ่งหาซื้อกันได้ในเรือนจัดแสดงสินค้า และจำหน่ายพืชพรรณของทางไร่ นอกจากนี้ยังมีสินค้าแปรรูป ประเภท ไอศครีม แยมผลไม้ น้ำผลไม้ ผลไม้อบแห้ง ผลไม้แช่อิ่มประเภทต่างๆ
ส่วนด้านนอกอาคาร สามารถชมไร่ลิ้นจี่ได้ ตั้งแต่เริ่มเลี้ยวเข้าสู่ไร่บีเอ็น และจอดรถกันได้ในสวนลิ้นจี่เลยทีเดียว ถัดเข้ามาเป็นแปลงพืชพรรณแปลกตามมากมาย ทั้งไม้โบราณดึกดำบรรพ์ ไม้เมืองหนาว ดอกไม้ประดับ ต้นไม้บางชนิดอาจไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน หากต้องการเที่ยวชมแปลงสาธิตพืชผลทางการเกษตร ก็สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ล่วงหน้าเพื่อให้ พาแวะเข้าชมพืชแปลงต่างๆได้เช่นกัน ให้บรรยากาศของการท่องเที่ยวในไร่เมืองหนาวได้เป็นอย่างดี

          ด้วยพื้นที่มากกว่า 1,000 ไร่ ตั้งอยู่บนเขาค้อ สูงกว่าระดับน้ำทะเล มากกว่า 800-1000 เมตร จึงมีภูมิประเทศเป็นที่ราบบนภูเขา และมีอากาศหนาวเย็นตลอดปี เหมาะสำหรับการทำการเกษตรพืชพรรณเมืองหนาว ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2512 และถูกสืบทอดตำนานแห่งการเกษตรแผนใหม่บนเขาค้อมาแล้ว 3 รุ่นมีการน้ำระบบการจัดการการเกษตรแบบต้นทุนต่ำแต่ได้ประสิทธิภาพสูงมาใช้ในการ ช่วยเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร และยังได้ผสมผสานความหลากหลายทางชีวภาพ ทางพืชพันธุ์และสัตว์ป่า มาช่วยในการทำการเกษตร และเป็นการอนุรักษ์ทรัพยาการธรรมชาติ ทั้งสัตว์ป่า และพันธุ์พืชไปในตัว

วัดมหาธาตุเพชรบูรณ์


วัดมหาธาตุเพชรบูรณ์


ประวัติวัดมหาธาตุ
             วัดมหาธาตุ เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ  ตั้งอยู่เลขที่ ๑๗ ถนนนิกรบำรุง ตำบลในเมืองอำเภอเมืองเพชรบูรณ์  จังหวัดเพชรบูรณ์  สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย  มีที่ดินตั้งวัดเนื้อที่ ๑๗  ไร่๓งาน  ๓๓  ตารางวาตามโฉนดที่ดินเลขที่๘๓๐เล่ม๙หน้า๓๐อาณาเขตทิศเหนือติดต่อกับที่ดินของเอกชนทิศใต้ติดต่อกับคลองตลุกทิศตะวันออกติดต่อกับถนนนิกรบำรุงทิศตะวันตกติดต่อกับที่ดินของเอกชน

             พื้นที่ตั้งวัดเป็นที่ราบอยู่ในเขตเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์  การคมนาคมสะดวก อาคารเสนาสนะต่าง ๆ มี  พระอุโบสถหลังใหม่  ศาลาการเปรียญเป็นอาคารไม้ยกพื้นสูง  กุฎีสงฆ์  จำนวน  ๑๓ หลัง  อาคารเรียน     พระปริยัติธรรม    ชั้น  พระวิหารหลวงพ่อเพชรมีชัย  ศาลาธรรมสังเวชและฌาปนสถาน  ปูชนียวัตถุของวัดมี  พระประธานในพระอุโบสถ  มีพระนามว่า หลวงพ่องาม”  พระประธานในพระวิหารมีพระนามว่า  “หลวงพ่อเพชรมีชัย”  นอกจากนี้มีพระเจดีย์ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์  บูรณะเมื่อ  พ.ศ.๒๕๑๐  เป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ  อัฐิธาตุพระอรหันต์  และพระพุทธรูปบูชา  พระเครื่อง  พระพิมพ์ต่าง ๆ ตลอดจนวัตถุโบราณอื่น ๆ อีกด้วย

              วัดมหาธาตุ  สร้างขึ้นเป็นวัดนับตั้งแต่ประมาณ  พ.ศ.๑๙๒๖   พระเจ้าเพชรบูรณ์ซึ่งเป็นเจ้าเมืองเพชรบูรณ์เป็นผู้สร้างขึ้น  ตามการสันนิษฐานของเจ้าหน้าที่กรมศิลปากร  ซึ่งขุดพบลานทองจารึกในพระเจดีย์องค์ใหญ่เมื่อปี  พ.ศ.๒๕๑๐  คงเป็นวัดที่ได้รับการทะนุบำรุงจากเจ้าเมืองให้เจริญรุ่งเรืองมาก ต่อมาได้กลายสภาพเป็นวัดร้าง  เล่ากันว่า  เจ้าพระยาจักรี(สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช)  กับเจ้าพระยาสุรสีห์   (กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท)  เมื่อคราวยกทัพไปรบกับพม่าที่พิษณุโลก  ได้นำไพร่พลมาทางเมืองเพชรบูรณ์  และได้กระทำพิธีบวงสรวงเพื่อชัยชนะที่วัดมหาธาตุ  นอกจากนี้แล้วทางราชการยังเคยใช้สถานที่นี้ประหารนักโทษสำคัญอีกด้วย


แก่งบางระจัน


แก่งบางระจัน

Image result for แก่งบางระจัน

  แก่งบางระจัน บ้านหนองแม่นา เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศในแหล่งธรรมชาติ และวิถีชีวิตชุมชนโดยชุมชนท้องถิ่นเป็นผู้บริหารจัดการ ตั้งอยู่ที่ หมู่ 6 ต.หนองแม่นา อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์

    ตำบลหนองแม่นาเป็นตำบลที่มีแหล่งธรรมชาติที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่งของอำเภอเขาค้อ มีลำธาร ซึ่งมีลักษณะเป็นเกาะแก่งหินที่มีน้ำใสไหลเย็นตลอดทั้งปี ในฤดูฝนน้ำจะเอ่อท่วมแก่งมองไม่ค่อยเห็นก้อนหินสวยงามที่ซ่อนตัวอยู่ใต้น้ำ ส่วนช่วงหลังฤดูฝนน้ำจะลดลง ทำให้ความสวยงามของเกาะแก่งหินก็จะออกมาอวดความสวยงามต่อผู้ที่ไปเยือน
   นอกจากความสวยงามแล้วยังเป็นแหล่งที่พบหอยก้นตัด ปลาพุงขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นปลาที่มีลักษณะคล้ายปลายี่สก หรือนวลจันทร์เป็นปลาล่าเหยื่อ(ปัจจุบันสงวนเป็นแหล่งขยายพันธุ์) และที่โด่งดังกำลังทำการวิจัยเพื่อแนวทางในการอนุรักษ์คือเป็นแหล่งแมงกะพรุนน้ำจืด พบเป็นประเทศที่ 5 ของโลก

กิจกรรมการท่องเที่ยว เริ่มต้นด้วยการนั่งรถ หรือเดินจากบริเวณหมู่บ้านไปยังบริเวณแก่งบางระจัน ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตรซึ่งอยู่ใกล้กับที่พักสงฆ์บางระจัน จากนั้นนั่งเรือแจวหรือเรืออีโปงของชาวบ้านที่ใช้สัญจรหรือทำมาหากินในอดีตถึงปัจจุบัน ออกจากแก่งบางระจันเป็นจุดแรกล่องเรือไปตามลำน้ำเข็กที่ไหลเย็นแต่ไม่เชี่ยวกราก ซึ่งถือเป็นแม่น้ำบนภูเขาที่ไหลนิ่งและมีน้ำอยู่ในระดับสม่ำเสมอตลอดปี โดยจะมีน้ำมากและไหลแรงในช่วงฤดูฝนเท่านั้น  เมื่อล่องมาถึงแก่งสองจะมีจุดสำคัญที่สวยงามพลาดไม่ได้คือการชมแมงกระพรุนน้ำจืด (Freshwater Jellyfish) ที่พบในประเทศไทยเป็นประเทศที่ 5 ของโลก หลังจากที่พบที่ สหรัฐอเมริกา รัสเซีย อังกฤษ และญี่ปุ่น สายพันธุ์ที่พบคือ Crasapedacusta Sowerbyi แมงกระพรุนจะปรากฏตัวตั้งแต่เวลา 10.00-16.00 น. นอกจากนี้บริเวณแก่งสองยังมีผีเสื้อพันธุ์หายากหลายพันธุ์ อาทิ ไกเซอร์ดำ ผีเสือจันทรา เหลืองหนานแฟ้นฉาน ถุงทองป่าสูง จรกา หนอนกะหล่ำ เหลืองหนามใหญ่โคนปีกดำ สะพายฟ้า หางติ่งปารีส หางดาบ หางพลิ้ว แผนที่ หนอนจำปี ฯลฯ ซึ่งผีเสื้อมักจะออกมาให้เห็นในช่วงที่มีแดดจัด เวลา 09.00-14.00 น. จากนั้นพักทานข้าวกลางวันเมื่อเลยช่องแคบมะละกา และเล่นน้ำ สามารถท่องเที่ยวแบบไปกลับได้หรือจะพักค้างคืนที่หมู่บ้าน แบบ home stay กับชาวบ้านได้